ว่าด้วยเรื่อง ความเป็นมาวันลอยกระทง (ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๒ )

Last updated: 14 พ.ย. 2559  | 

ว่าด้วยเรื่อง ความเป็นมาวันลอยกระทง (ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๒ )

ว่าด้วยเรื่อง ความเป็นมาวันลอยกระทง (ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๒ )



วันลอยกระทง ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๒ เป็นประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณ โดยมีวัตถุประสงค์ที่หลากหลายประการ เช่นลอยเคราะห์ ทุกโศก โรคภัย บูชาพระพุทธเจ้า แต่ปัจจุบันลอยกระทงเพื่อขอขมา และระลึกถึงคุณแม่พระคงคา ที่ได้อำนวยประโยชน์ต่าง ๆ แก่มวลมนุษย์ โดยประเพณีลอยกระทงมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยประมาณ ๗๐๐ ปีมาแล้


ประเพณีลอยกระทงได้เข้าสู่ประเทศไทยในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีประมาณ พ.ศ. ๑๘๐๐ ดังปรากฏในหนังสือนางนพมาศ ผู้เป็นพระสนมเอกของพระร่วงเจ้าว่า "ครั้นวันเพ็ญเดือน ๑๒ ข้าน้อยได้กระทำโคมลอย คิดตกแต่งให้งามประหลาดกว่าโคมสนมกำนัลทั้งปวงจึงเลือกผกาเกษรสีต่างๆ มาประดับเป็นรูปกระมุทกลีบบานรับแสงจันทร์ใหญ่ประมาณเท่ากงระแทะ ล้วนแต่พรรณดอกไม้ซ้อนสีสลับให้เป็นลวดลาย..." เมื่อสมเด็จพระร่วงเจ้าได้เสด็จฯทางชลมารค ทอดพระเนตรกระทงของนางนพมาศก็ทรงพอพระราชหฤทัย จึงมีพระราชโองการฯให้จัดพิธีลอยกระทงเป็นประจำทุกปี ในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสองพระราชพิธีนี้จึงได้ถือปฏิบัติเป็นประจำจนกระทั่งบัดนี้


(ภาพประกอบ)


การลอยกระทงไม่มีพิธีเป็นทางการ เพียงแต่ให้มีกระทงจะทำด้วยอะไรก็ได้ เช่น ใบตอง ก้านกล้วย กาบพลับพลึง เปลือกมะพร้าว กระดาษ จุดธูปเทียนปักที่กระทง ประดับด้วยดอกไม้นานาชนิด แล้วอธิษฐานจิตตามที่ตนปรารถนา เสร็จแล้วจึงลอยไปที่แม่น้ำลำคลอง ห้วยหนอง คลองบึง ประเพณีลอยกระทงมีมานานจนสืบประวัติไม่ได้ และไม่มีในคัมภีร์ทางศาสนา เสฐียรโกเศศ (พระยาอนุมานราชธน) ได้ค้นคว้าที่มาของประเพณีลอยกระทงไทยทุกภาค (เหนือ กลาง ใต้ อีสาน) ตลอดจนถึงประเทศใกล้เคียงคือ พม่า กัมพูชา จีน อินเดีย ได้ความว่ามีประเพณีลอยกระทงทุกประเทศด้วยเหตุผลต่างๆ กัน

สรุปเหตุผลของการลอยกระทง โดยเชื่อสืบๆต่อกันมา ดังนี้

๑.เพื่อขอขมาพระแม่คงคาเพราะได้อาศัยน้ำ เพื่อกินและใช้ประโยชน์นานาประการ และอีกประการหนึ่งมวลมนุษย์ มักจะทิ้งและถ่ายสิ่งปฏิกูลลงไปในน้ำด้วย

๒.เพื่อสักการะรอยพระพุทธบาทนัมมทานทีซึ่งพระพุทธเจ้าทรงประทับรอยพระบาทประดิษฐานไว้บนหาดทรายที่แม่น้ำนัมมทานที ในประเทศอินเดีย

๓.เพื่อลอยเคราะห์ ทุกข์โศกโรคภัย และสิ่งไม่ดีต่างๆ คล้ายกับพิธีลอยบาปของพราหมณ์

๔.เพื่อบูชาพระอุปคุตเถระ ซึ่งชาวไทยภาคเหนือให้ความเคารพแก่พระอุปคุตอย่างสูง ซึ่งตามตำนานเล่าว่า เป็นพระมหาเถระรูปหนึ่งที่มีอิทธิฤทธิ์มาก สามารถปราบพญามารได้ 


-----------------------------------


โดย: สำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ วัดสระเกศ


Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้