สงฆ์ไทยไม่เชื่อพุทธศาสนาเสื่อม ชี้การเผยแผ่ศาสนาไม่จำเป็นต้องทำตามกระแส

Last updated: 6 ต.ค. 2559  | 

สงฆ์ไทยไม่เชื่อพุทธศาสนาเสื่อม ชี้การเผยแผ่ศาสนาไม่จำเป็นต้องทำตามกระแส

สงฆ์ไทยไม่เชื่อพุทธศาสนาเสื่อม ชี้การเผยแผ่ศาสนาไม่จำเป็นต้องทำตามกระแส

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม ที่ห้องประชุมชั้น 7 บริษัท ไทยนครพัฒนา จำกัด พระเมธีวรญาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์ กล่าวในการจัดเสวนาหัวข้อ “ความเสื่อมของพุทธบริษัท : แนวทางที่ควรแก้ไข” จัดโดยสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ชมรมโพธิคยา 980 และมูลนิธิวีระภุชงค์ ว่า แนวทางในการแก้ไขให้พุทธศาสนามั่นคงส่งถึงลูกหลานนั้น

หากเรายึดศีลและพระวินัยเป็นกรอบในการทำงาน หรือการอยู่ร่วมกัน ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่หากยึดมั่นเกินไปจะกลายเป็นสิ่งกีดขวางการเข้าถึงธรรม และทำให้เป็นทุกข์ ทั้งนี้ หลักคำสอนทางศาสนาพุทธคือการปล่อยวาง ดังนั้น พุทธศาสนาสามารถเข้าได้ทั้งประตูปัญญาและศรัทธา เมื่อเข้าถึงและเข้าใจจะทำให้เกิดสติ เกิดการพัฒนาตนเอง อย่างไรก็ตาม ธรรมะมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา อยู่ที่คนจะประยุกต์ใช้ตามยุคสมัย


พระเทพโพธิวิเทศ เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย หัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล ผู้อำนวยการหลักสูตรสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวว่า การแก้ไขความเสื่อมศรัทธาของพุทธบริษัท สื่อมีส่วนสำคัญ ต้องเสนอข่าวดีๆ ส่วนข่าวที่ไม่ดีควรนำเสนอในเชิงแก้ไข อย่าไปเสนอเชิงให้เลียนแบบ ที่มีผู้มองว่าการเผยแผ่ล้าหลังทำให้มีประชาชนลดความศรัทธาในพุทธศาสนาลง อาตมามองว่าการเผยแผ่ศาสนาต้องเผยแผ่แบบล้าหลังจึงจะดึงสังคมให้อยู่ ไม่จำเป็นต้องตามกระแสสังคม ผลของการเผยแผ่ศาสนาอยู่ที่ผลสำเร็จ วัดด้วยความสุข และความปล่อยวางของประชาชน


พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดด่านใน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา รองผู้อำนวยการหลักสูตรสถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวว่า อาตมามองว่าศาสนาในไทยไม่ได้เสื่อมจนน่าตกใจ ดังนั้น จึงขอฝากพุทธบริษัทให้อยู่กับความเป็นจริง มองทุกสิ่งเป็นบวก หูหนวกบางโอกาส ฉลาดเลือกสรร แบ่งปันสังคม ส่วนแนวทางที่ควรแก้ไขเกี่ยวกับความเสื่อมนั้น ต้องแก้ไขความเสื่อมที่ตัวเราก่อน และช่วยอธิบายให้คนในครอบครัวเข้าใจ จากนั้นก็ขยายไปสู่ญาติและบุคคลรอบข้าง ถ้าทำได้เช่นนั้นศาสนาไปรอดแน่นอน

--------------------------------------------

โดย: สำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ วัดสระเกศ

ขอบคุณ/ที่มา: http://www.matichon.co.th/news/310315

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้