ชีวิต...!! "พระไทย พระธรรมทูต" ในต่างแดน

ชีวิต...!! "พระไทย พระธรรมทูต" ในต่างแดน

ปัจจุบันฝรั่งหันมานับถือ “พระพุทธศาสนา” กันมาก ต้องยอมรับว่าบทบาท “พระธรรมทูตไทย” ที่กระจายอยู่เกือบทั่วโลกประมาณ 2,000 รูป มีบทบาทไม่น้อยในการเผยแผ่ พุธที่ 6 กรกฎาคม 2559 เวลา 10.00 น.


“ศาสนาในอนาคตจะต้องเป็นศาสนาสากล...พระพุทธศาสนาตอบข้อกำหนดนี้ได้...ถ้าจะมีศาสนาใดที่รับมือได้กับความต้องการทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ปัจจุบัน ศาสนานั้นก็ควรเป็นพระพุทธศาสนา” นี้คือคำพูดของ อัลเบิร์ด ไอส์ไตน์ นักวิทยาศาสตร์ผู้โด่งดัง

ส่วนนักวิชาการไทยหลายท่านพยากรณ์ไว้ว่า “วันหนึ่งดวงอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตะวันตก” หรือแม้กระทั่ง หลวงพ่อชา สุภัทโท ท่านก็เคยพูดว่า “ดอกบัวจะมาบานในตะวันตก”

ได้ติดตามการเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี สมัชชาสงฆ์ไทย ในสหรัฐอเมริกา ณ วัดนวมินทรราชูทิศ เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา เมื่อเร็วๆ นี้ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะการเฉลิมฉลองครบรอบ 40 ปี ของสมัชชาสงฆ์ไทย ในสหรัฐอเมริกา ที่เกิดขึ้น ณ วัดที่สร้างขึ้นเพื่อ “เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ที่ถือว่าเป็นวัดศูนย์กลางชาวพุทธไทย ในประเทศสหรัฐอเมริกา นับว่าเป็นปรากฎการณ์ที่น่ายินดี ในฐานะ “ชาวพุทธผู้ห่างไกลวัด”

วัดนวมินทรราชูทิศ เกิดขึ้นโดยดำริของ พระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา และกรรมการมหาเถรสมาคม ท่านเล่าว่า

“การจัดสร้าง วัดนวมินทรราชูทิศ ก็เพื่อ “เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเป็นอนุสรณ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชสมภพที่เมืองบอสตัน โดยได้มีการสร้างอุโบสถและตัววัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 บนเนื้อที่ 233 ไร่ ด้วยงบประมาณกว่า 2,000 ล้านบาท และได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลไทยกว่า 500 ล้านบาท ทำให้ วัดนวมินทรราชูทิศ เป็นวัดไทยในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก...”

ปัจจุบันฝรั่งหันมานับถือ “พระพุทธศาสนา” กันมาก ต้องยอมรับว่าบทบาท “พระธรรมทูตไทย” ที่กระจายอยู่เกือบทั่วโลกประมาณ 2,000 รูป มีบทบาทไม่น้อยในการเผยแผ่ และหลายคนก็อาจจะยังไม่ทราบว่า “พระธรรมทูต” เหล่านี้กว่าจะไปต่างประเทศหรือเป็น “พระธรรมทูต” ได้ต้องผ่านการอบรมทั้งภาษา การเผยแผ่ การสอนกัมมฐานหรือแม้กระทั้งวิชาการก่อสร้าง

โดยมีมหาวิทยาลัยสงฆ์ 2 แห่งเป็นแม่งาน คือ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย และเดี๋ยวนี้การฝึกอบรม “พระธรรมทูต” มีความก้าวหน้ามาก จนมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต้องจัดตั้ง “วิทยาลัยพระธรรมทูต”

ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “พระครูเมธีชยาภิวัฒน์” เลขานุการสหภาพพระธรรมทูตไทยในทวีปยุโรป ซึ่งปัจจุบันจำพรรษาอยู่ วัดศรีนครินทรวราม (วัดเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ท่านเล่าว่า

“ต่างประเทศ เช่น ทวีปยุโรป อเมริกา และออสเตรเลีย ได้ชื่อว่าประเทศพัฒนาแล้ว แต่เป็นการพัฒนาทางด้านวัตถุ ส่วนด้านจิตใจในการออกจากทุกข์ และแสวงหาความสุขที่ยั่งยืนนั้น ถือว่ายังด้อยพัฒนาอยู่”

การเป็นอยู่ของ “พระไทย” ในต่างแดน ส่วนใหญ่จะไม่มีการออกบิณฑบาตในตอนเช้า เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เช่น อากาศ และประชนคนรอบวัดส่วนมากไม่ใช่ชาวพุทธ แต่หลายวัดจะมีลูกศิษย์คอยอำนวยความสะดวกให้ในเวลาเช้า ส่วนตอนเพลจะมีญาติโยมทั่วไปมาร่วมทำบุญถวายเพลเลี้ยงพระ

คนเข้าวัดไทย หลักๆ จะเป็นชาวไทย ชาวลาว ชาวเขมร เวียดนาม และศรีลังกา ซึ่งย้ายมาเพราะหนีภัยสงคราม รวมทั้งชาวท้องถิ่นที่เริ่มให้ความสนใจใน “พระพุทธศาสนา” เพิ่มขึ้นด้วย อีกอย่างหนึ่งการเผยแผ่ที่ประสบผลสำเร็จมากก็คือ การเปิดโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ เพราะจะทำให้ได้กลุ่มเป้าหมายทุกคนและทุกมิติ

เช่น เมื่อฝรั่งคนท้องถิ่นขับรถมาส่งลูกเมียมาโรงเรียน ลูกๆ จะเรียนวิชาพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรม ต่อด้วยวิชาภาษาไทยสำหรับเด็ก หลังจากนั้นก็จะเป็นวิชาเสริมพิเศษ เช่น รำไทย ดนตรีไทย และมวยไทย เป็นต้น ส่วนภรรยาหรือแม่ก็จะแสวงหาวิชาความรู้เพิ่มเติม เช่น วิชาภาษาท้องถิ่น แกะสลัก และนวดแผนไทย

และอีกประการหนึ่งที่ฝรั่งสนใจหันมานับถือ “พระพุทธศาสนา” กันมากนั้นก็คือ “การปฎิบัติกัมมฐาน” บางแห่งมีฝรั่งและคนเอเชีย เปิดห้องเรียนสอน “การปฎิบัติกัมมฐาน” โดยเก็บค่าเล่าเรียนกันเลยทีเดียว

นอกจากสหรัฐอเมริกา ยุโรป ที่ฝรั่งหันมาสนใจ “ศาสนาพุทธ” แล้ว ใครที่ติดตามความเคลื่อนไหวของ ดร.พระชาตรี เหมพันธ์ พระธรรมทูตไทย ที่อาศัยอยู่ ณ เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ก็จะทราบว่า ชาวรัสเซียก็มีความสนใจหันมาปฎิบัติธรรมแบบพุทธมิใช่น้อย


ตอนนี้ต้นเกล้าแห่งธรรม ต้นกล้าแห่งสันติ เริ่มเบ่งบานในตะวันตกแล้ว ความเจริญและก้าวหน้า “พระพุทธศาสนา” ในต่างแดนแบบนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากเราไม่มี “พระมหาเถระ” ที่มีวิสัยทัศน์ดี และก้าวหน้าอย่าง “สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโน) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง และพระธรรมทูตที่กำลังปฎิบัติศาสนกิจอีกเกือบ 2,000 รูป...”

ส่วน “ศาสนาพุทธ” ในไทย...ล้าเต็มทนกำลังจะล่มสลาย เพราะมีภัยทั้งเกิดจากภัยภายในและภัยที่จะเกิดจากข้างนอก อาจถึงปลายยุคความรุ่งเรือง “ศาสนาพุทธในไทยแล้ว” ดังคำพูดของ สมเด็จเกี่ยว ที่กล่าวไว้ว่า “ให้จำคำหลวงพ่อไว้ ไม่เกิน พ.ศ.2594 ประเทศไทยตรงนี้ อาจจะไม่ใช่ประเทศไทย สำหรับพระพุทธศาสนาอีกต่อไปแล้ว เอวัง ก็มีด้วยประการละฉะนี้แล...!!”

------------------------------------------------------------

เรียบเรียงใหม่โดย: สำนักงานกำกับดูแลพระธรรทูตไปต่างประเทศ วัดสระเกศ

ขอบคุณข้อมูล: เดลินิวส์ออนไลน์
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย “เปรียญ10” riwpaalueng@gmail.com
เครดิตภาพ สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐเมริกา